… เพราะความจริงแล้วคำว่า “รถเข็นที่ดีที่สุด” ในนิยามของคุณแม่กับลูกน้อยอาจไม่เหมือนกัน …
ในการเลือกซื้อรถเข็นให้ลูกน้อยแต่ละครั้งนั้นแม่เคทมักจะใช้ความรู้สึกตัวเองเพื่อมองว่าเป็นรถเข็นที่เข็นสบาย และดีที่สุดแก่น้องสแลซ แต่บ่อยครั้งที่เราเริ่มพาน้องออกไปเดินเล่นไม่ถึง 10 นาที น้องสแลซก็เริ่มมีอาการงอแง แม้แต่คุณย่าที่เจอระหว่างทางก็แนะนำว่า น้องไม่อยากนั่งรถเข็น น้องต้องการให้คุณแม่อุ้มมากกว่า
หลังจากที่น้องสแลซเริ่มโตขึ้นมา คุณแม่ก็ได้ลองเปลี่ยนรถเข็นใหม่อีกคัน แม่พบว่าน้องเริ่มจะยอมรับในการนั่งรถเข็นมากขึ้นจากคันเดิม (เป็นไปได้ไหมว่าเหตุผลที่น้องไม่อยากนั่งรถเข็นคันก่อน ๆ เพราะน้องไม่ชอบรถเข็นคันนั้น) แต่หลังจากที่คุณแม่ได้ใช้งานรถเข็นคันนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วพบว่า เบาะนั่งเตี้ยเกินไป เมื่อเวลาที่เราเข็นรถผ่านลำคลองหรือแม้แต่สิ่งสกปรกที่เป็นอันตรายต่อผิวของลูกน้อยรวมถึงเวลาที่มีสุนัขตัวใหญ่ ๆมา คุณแม่ก็กลัวและทำอะไรไม่ถูก น้องสแลซก็มักหันหน้ามาส่งสัญญาณว่าเริ่มจะไม่ชอบรถเข็นคันนี้แล้ว
และเมื่อไม่นานมานี้ คุณแม่เองได้ลองใช้เข็นเด็กรุ่น On The Go จากแบรนด์ Unilove แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ คุณแม่เคทพบว่านอกจากการเข็นที่ง่ายแล้ว น้องยังติดรถเข็นจนไม่อยากให้แม่อุ้มเลย คุณแม่เลยมีเคล็ดลับไว้สังเกตพฤติกรรมของลูกน้อยเวลานั่งรถเข็น ว่ามีอะไรที่ทำให้น้องชอบนั่งรถเข็นคันนี้ และได้สรุปมา 5 เคล็ดลับคือ
เคล็ดลับที่ 1 ในการสังเกตลูกน้อย : ลูกน้อยชอบนั่งตัวตรงมากกว่าการนอน
คุณแม่มักรู้สึกดี ถ้าลูกน้อยอยู่ในท่านอน ลูกน้อยน่าจะสบายสบายตัวมากกว่าการนั่ง แต่เราต้องกลับมาสังเกตลูกน้อยด้วยว่าน้องต้องการที่จะนอนไหม อย่างเช่น น้องอาจจะไม่ชอบที่จะนอนตื่นมาเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ น้องอาจจะต้องการลุกขึ้นเพื่อออกไปเรียนรู้การผจญภัย เพราะสำหรับลูกน้อยแล้วโลกนี้ช่างสดชื่น และเพลิดเพลินสนุกสนานสุดๆ รถเข็น On The Go จึงเป็นรถเข็นที่ตอบโจทย์ในการนั่งของลูกน้อยได้ดีที่สุด
รถเข็นเด็กคันแรกที่แม่เคทซื้อนั้น ปลอดภัยจากแสงก็จริงแต่ปิดบังทิวทัศน์ไว้ จนน้องมองแทบไม่เห็นอะไรเลย แน่นอนว่าน้องจะหมดสนุกกับการเดินทาง งอแงให้พ่อแม่อุ้มน้องขึ้นเพราะเขาต้องการที่จะเห็นทิวทัศน์ ด้วยช่วงวัยของเขาเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นชอบมอง และเรียนรู้สิ่งรอบข้าง
พอเปลี่ยนรถเข็นอีกคัน รู้สึกว่าน้องนั่งง่ายขึ้น แต่หลังจากการใช้งานสักพัก คุณแม่รู้สึกว่าเบาะนั่งน้องเตี้ย ไม่เป็นอิสระ แล้วปัญหาของรถเข็นเบาะเตี้ย คือ เวลาที่เจอสิ่งสกปรกบนพื้นหรือใกล้ท่อไอเสียของรถยนต์ แม่ก็กลัวลูกน้อยจะได้รับมลพิษ บางครั้งก็มีน้องหมาเดินเข้ามาใกล้แม่ก็รู้สึกกังวล
เมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อคุณแม่ได้เห็นรถเข็นเด็กทั่วไป บางครั้งลูกน้อยก็หันไปดูข้างหลังบ่อย ๆ เพราะกังวลว่า คุณพ่อคุณแม่กำลังเข็นน้องอยู่หรือเปล่า (ความวิตกกังวลจากการพรากจาก) หรือบางครั้งก็มีลมแรงมากอาจทำให้น้องกินลมโดนทราย และเพื่อลดความวิตกกังวลจากการไม่เห็นคุณพ่อคุณแม่ ฟังก์ชั่นหมุนเบาะได้สองทิศทางจึงมีความจำเป็นมาก ๆ สำหรับคุณแม่ค่ะ
หมายเหตุ : วิธีการหมุนเบาะรถเข็น On the go แบรนด์ Unilove นั้นง่าย และสะดวกสบาย โดยเบาะนั่งสามารถหมุนได้ 360 องศาได้ด้วยการกดปุ่มเดียว
เคล็ดลับที่ 4 ในการสังเกตลูกน้อย : ลูกอาจจะระคายเคืองแผ่นทำความเย็นที่คุณพ่อ และคุณแม่ซื้อแยกต่างหาก การมีช่องระบายอากาศโดยตรงที่ด้านหลังเบาะจึงเป็นอะไรที่ดีมาก แถมยังมีม่านบังแดดอย่างดีที่นำมาคลุมได้
หากลูกน้อยเหงื่อออกง่าย คุณแม่ต้องการให้น้องนั่งบนรถเข็นที่ปลอดโปร่ง รถเข็น On the go แบรนด์ Unilove คือทางเลือกเลยค่ะ เพราะด้านหลังเบาะนั้นสามารถระบายอากาศได้ดี ดีกว่าใช้แผ่นทำความเย็นแน่นอน
อีกจุดหนึ่งคือดวงตา และผิวหนังของลูกน้อยนั้นค่อนข้างบอบบาง รถเข็น On the go จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ลูกน้อยของคุณแม่ค่ะ เพราะการมีม่านบังแดดจะช่วยปกป้องดวงตา และผิวหนังของลูกน้อยได้
หมายเหตุ : Unilove On the go เบาะนั่งมีรูระบายอากาศเป็นพิเศษ และม่านบังแดดทน UV50
เคล็ดลับที่ 5 ในการสังเกตลูกน้อย : ป้องกันไม่ให้ลูกน้อยสัมผัสฝุ่นละอองหรือละอองน้ำ แม่แม่สามารถใช้ผ้าคลุมกันฝนเพื่อป้องกันน้องได้
ในช่วงฤดูฝน เราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าฝนจะตกเมื่อไหร่ ดังนั้นคุณแม่สามารถใช้ผ้าคลุมกันฝนได้เวลาออกไปนอกบ้าน ผ้าคลุมกันฝนจะใช้คลุมรถเข็นได้ทั้งคันเลย เพื่อป้องกันไม่ให้มือของลูกน้อยสัมผัสละอองน้ำ รวมถึงยังป้องกันฝุ่นละอองได้อีกด้วย
หมายเหตุ : รถเข็นเด็กแบบมีผ้าคลุมกันฝนให้น้องได้ความรู้สึกเหมือนแคปซูลนักอวกาศน้อย ปลอดภัย ปกป้องลูกน้อยของคุณแม่
~~~~
หมายเหตุ : Unilove สามารถปรับแฮนด์บาร์ได้ 3 ระดับ คุณพ่อคุณแม่ส่วนสูงต่างกันประมาณ 15 ซม. ดังนั้นเราจึงหาความสูงของแฮนด์บาร์ที่เหมาะกับเราทั้งคู่ (ที่จับรถเข็นสามารถปรับได้ สะดวกสำหรับคุณแม่ และคุณพ่อ)
รถเข็นเด็ก On The Go มีพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพียงพอ หรือ ใช้วางของใช้สำหรับดูแลลูกน้อย
เมื่อก่อนคุณแม่เคทเคยใช้รถเข็นเด็กแบบไม่มีที่เก็บของ จุดที่ลำบากคือไม่มีที่สำหรับวางกระเป๋าสำหรับแม่ ถ้าจะแขวนไว้บนที่จับแม่ก็กลัวเรื่องน้ำหนักที่ไม่สมดุล เพราะฉะนั้นแล้ว การมีพื้นที่เก็บของที่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลหลักในการเลือกรถเข็นให้น้องสแลซของแม่เคทค่ะ
น้ำหนักของรถเข็นเด็ก On the go เบาพกพาง่าย และยังไม่เปลืองพื้นที่
หากคุณแม่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ต้องขึ้นลงบันได คุณแม่คงจะต้องคำนึงถึงน้ำหนักของรถเข็นเด็กที่เบาเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อที่จะพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก เพราะคุณแม่เคทคิดว่าอุปสรรคหลักที่ทำให้ไม่ค่อยได้พาลูกน้อยออกไปข้างนอก คือการเดินขึ้นลงบันได และอีกอย่างคือเวลาเก็บใส่ท้ายรถ เราก็มักกังวลว่าจะยกขึ้นไหวหรือเปล่า การใช้รถเข็นที่สามารถพกพาได้ และประหยัดพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากค่ะ
หมายเหตุ : น้ำหนักของรถเข็นเด็ก On The Go ประมาณ 5.2 กก.
สุดท้ายนี้ คุณแม่เคทหวังว่าคุณพ่อ และคุณแม่จะได้เลือกรถเข็นที่ลูกน้อยถูกใจไม่งอแง สามารถพาน้องเที่ยวได้อย่าง
สะดวกสบายและปลอดภัยนะคะ
~~~~~~~~~~~~~~~~
ขอบคุณรีวิวจากคุณแม่เคทที่ ให้เราได้ส่งต่อและแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับคุณแม่ทุกท่าน ด้วยนะคะ และสามารถติดตามคุณแม่เคทเพิ่มเติมได้ที่
https://www.instagram.com/katestlc/
ขอบคุณแหล่งที่มา : POPDAILY
หากคุณแม่สนใจ Unilove On The Go คุณแม่สามารถเข้าชมสินค้าจริงได้ที่
Rocking Kids Store ชั้น 2 เมกาบางนา โซนเมกาคิดส์ เพื่อทดลองการใช้งานฟังก์ชั่นของรถเข็นได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID: @Rockingkids
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40rockingkids
หรือโทร Rocking kids สำนักงานใหญ่
Tel. 098-6344609 / 064-5509003
FB: Rocking Kids Thailand
Shop Online ได้ทุกช่องทาง
Website : http://www.rockingkidsthailand.com
Shopee : https://shp.ee/qxhkky7
Lazada : https://bit.ly/31RDu6d
LINE My Shop : https://shop.line.me/@rockingkids